ไหว้พระเสริมสิริมงคล และชมสมบัติของชาติ ในวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร

ใครที่ผ่านไปผ่านมาแถวท่าพระจันทร์ หรือไปขึ้น-ลงเรือท่ามหาราช จะต้องรู้จักวัดมหาธาตุฯ เป็นแน่แท้ เพราะวัดนี้ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับท่ามหาราชนั่นเอง แต่ส่วนมากเราจะไปวัดมหาธาตุเพื่อไปจอดรถ และออกไปช้อปปิ้งพระเครื่อง กินเที่ยวย่านท่าพระจันทร์-ท่าเตียน หรือฝากรถแล้วไปไหว้พระที่วัดพระแก้วและวัดโพธิ์ โดยจะมีสักที่ครั้งที่เราเดินเข้าไปในวัดมหาธาตุฯ เพื่อไหว้พระหรือเที่ยวชม

ความน่าสนใจ

  1. ไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐานในพระเจดีย์ทอง ในพระมณฑป
  2. ไหว้พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ที่พระวิหาร 
  3. ชมสมบัติของชาติที่พระวิหาร ได้แก่ แกะสลักหินสมัยพระนารายณ์ ตาลปัตรในพระราชพิธีสำคัญๆ ในลาน และอื่นๆ 
  4. ไหว้พระศรีสรรเพชญ์” และ “พระอรหันต์  ๘ ทิศ” ในพระอุโบสถ
  5. ชมใบเสมาครุฑหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ นำมาประดิษฐานที่มุมเสาทั้งสี่ของพระอุโบสถ

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์  เดิมชื่อว่า “วัดสลัก” สันนิษฐานสร้างมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา จนมาถึงยุครัตนโกสินทร์ สมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาสุรสิงหนาท (พระอนุชาธิราชของรัชกาลที่ 1) ทรงมาพบวัด และบูรณปฏิสังขรณ์ สถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงขอพระราชทานชื่อพระอารามจาก รัชกาลที่ 1 ว่า “วัดนิพพานนานาม” จากนั้น มีการเปลี่ยนชื่อหลายครั้งในรัชกาลที่ 1 เป็น “วัดพระศรีสรรเพชญ์”  และ “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชวรมหาวิหาร”  จนเมื่อปี พ.ศ 2346 รัชกาลที่ 1 จึงพระราชทานนามว่า “วัดมหาธาตุ” เพื่อเป็นอารามหลวงใจกลางกรุงเทพ และยังมีพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ  ตามแบบกรุงศรีอยุธยา

ส่วนคำว่า “ยุวราชรังสฤษฎิ์” ได้มาจากการพระราชทานสร้อยนามจาก รัชกาลที่ ๕ เมื่อครั้งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศสวรรคตขณะมีพระชนมายุ 16 พรรษา ปัจจุบัน วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหารเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก เป็นสถานที่ที่ใช้เป็นที่พระราชทานเพลิงเจ้านายยศสูง

ไหว้พระบรมสารีริกธาตุ เพื่อเป็นสิริมงคลแห่งชีวิต และขออโหสิกรรม

เมื่อเราเดินเข้าไปวัดมหาธาตุฯ จากประตูท่ามหาราช ผ่านศาลาราย จะเห็นพระมณฑปอยู่ตรงหน้าตรงกลางระหว่างพระอุโบสถทางขวามือ และพระวิหารทางซ้ายมือ จุดศูนย์กลางพระมณฑป จะเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ทองทรงเครื่องย่อมุมไม้สิบสอง ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และมีพระพุทธรูปรายรอบพระเจดีย์

พระบรมสารีริกธาตุ ในพระเจดีย์ทอง
พระพุทธรูปรายรอบพระเจดีย์

เราสามารถสักการะพระบรมสารีริกธาตุได้โดยการอ่านบทคาถาบูชาพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อเป็นศิริมงคลแห่งชีวิต และขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร  นอกจากนี้ ยังสามารถสวดคาถาบูชาพระพุทธเจ้า 28 องค์ได้อีกด้วย 

ไหว้พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ที่พระวิหาร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์รายรอบ

เมื่อออกจากพระมณฑป จะเห็นพระวิหารอยู่ทางซ้ายมือ เราสามารถเข้าไปกราบไหว้พระประธานในวิหาร หรือ พระสักยมุนี และเราสามารถอ่านบทบูชาพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ และจากนั้นไหว้พระประจำวันเกิด เพื่อเป็นมงคลชีวิต

พระสักยมุนีในพระวิหาร
ไหว้พระพุทธรูปประจำวันเกิดพร้อมบทสวดบูชา

เมื่อกราบไหว้พระสักยมุนีเสร็จแล้วนั้น เราควรสักการะ หลวงพ่อหิน พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เคยเป็นพระประธานในอุโบสถวัดสลัก (ชื่อเดิมของวัดมหาธาตุฯ ก่อนที่จะบูรณะ) และที่ฐานหลวงพ่อหินยังพบแหล่งศิลาจารึกดวงชะตะสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช 

หลวงพ่อหิน

และบริเวณทางเข้าพระวิหารจากด้านใต้ เราสามารถกราบไหว้ พระอุปคุต พระสีวลี และพระมหากัจจายนะเถระได้อีกด้วย 

ชมสมบัติของชาติที่พระวิหาร ได้แก่ แกะสลักหินสมัยพระนารายณ์ ตาลปัตรในพระราชพิธีสำคัญๆ ในลาน และอื่นๆ 

ในพระวิหาร มีสมบัติของชาติสำคัญหลายชิ้นให้ชม สิ่งที่สำคัญที่สุด น่าจะเป็นผ่านศิลาจารึกดวงชะตา เขียนด้วยภาษาโบราณ  สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พบที่ฐานหลวงพ่อหิน ศิลาจารึกแผ่นนี้ 

ศิลาจารึกดวงชะตา

ความน่าสนใจ คือ ศิลาจารึกนี้มีอายุ 333 ปี สร้างปี พ.ศ. 2228 อยู่ที่ฐานพระประธานมา 238 ปี ถูกนำไปถ่วงน้ำในสระ 33 ปี และอยู่ในวิหารมาแล้ว 62 ปี เป็นหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดที่คงเหลือ เพื่อแสดงว่า วัดมหาธาตุฯ สร้างมากว่า 333 ปี ตั้งแต่สมัยอยุธยา

นอกจากนั้น ภายในพระวิหาร ยังมีสมบัติของชาติ อีกมากมาย ได้แก่ หนังสือผูกและไม้อัดใบลาน   ตู้ลายรดน้ำ  และ ตาลปัตรพัดรองที่ใช้ในพระราชพิธีสำคัญของหลวง

ในตู้โชว์ทางฝั่งซ้ายของพระวิหาร จะแสดงตาลปัตรพัดรอง ที่ใช้ในงานมงคล เช่น งานเฉลิมฉลองพระชนมายุ และงานอวมงคล เช่น งานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ออกแบบงดงามด้วยปักดิ้นหรือบุผ้า

ไหว้พระศรีสรรเพชญ์” และ “พระอรหันต์  ๘ ทิศ” ในพระอุโบสถ

พระศรีสรรเพชญ์ ประดิษฐานในพระอุโบสถของวัดมหาธาตุ ที่ฐานพระ พระศรีสรรเพชญ์ จะรายล้อมด้วย พระอรหันต์ผู้เป็นสาวก 8 องค์ นั่งประนมมือ เสมือนว่ากำลังฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้า

พระอุโบสถมีความโอ่งโถง ใช้ประกอบพิธีในทุกวันพระ ทำบุญ ตักบาตร และฟังธรรมพระเทศนา วันนี้  ผมมาในวันพระ เลยได้พบกับแม่ชี อุบาสก อุบาสิกาจำนวนมาก มาทำบุญและกำลังฟังธรรม  

พระระเบียง  พระมณฑป พระอุโบสถ และพระวิหาร จะถูกล้อมรอบด้วยพระระเบียง มีพระพุทธรูปประดิษฐานมากกว่า 200 องค์ 

ชมใบเสมาครุฑหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ นำมาประดิษฐานที่มุมเสาทั้งสี่ของพระอุโบสถ

ความน่าสนใจ ของอุโบสถ คือ มีเสมาตราครุฑประดิษฐานอยู่ที่เสาทั้ง 4 มุมของพระอุโบสถ ซึ่งปรกติใบเสมาจะตั้งอยู่ที่พื้นรอบๆ พระอุโบสถ 

ผมจึงสอบถามแม่ชีผู้ดูแล ว่าเหตุใด ใบเสมาจึงอยู่ที่ตรงนั้น แม่ชีเล่าว่าวัดมหาธาตุฯ เป็นวัดหลวงชั้นเอก เป็นวัดของกษัตริย์ การนำใบเสมาที่เป็นสัญลักษณ์เป็นพญาครุฑมาประดิษฐานไว้กับพื้นจะไม่เหมาะสม

วันนี้ ผมเดินเที่ยววัดใช้เวลาไปเกือบ 3 ชั่วโมง ไหว้พระ ตั้งจิตอธิษฐาน ศึกษาประวัติของวัดมหาธาตุฯ และ เดินเที่ยวชมสถาปัตยกรรม นับเป็นการใช้เวลาวันพระที่มีคุณค่าต่อกายและใจ  แวะมาแถวท่าพระจันทร์ หรือท่ามหาราชครั้งหน้า แวะไปไหว้พระที่วัดมหาธาตุเพื่อเป็นสิริมงคลทุกคนด้วยนะครับ 

ขอร่วมอนุโททนาบุญกับแฟนๆ ทุกคนนะครับ
Errorlloyd

Errorlloyd

เริ่มการท่องเที่ยวสะพายกล้อง มาตั้งแต่อายุ 29 ปี มิชชั่น คือ ทุกปีต้องเดินทางไปที่ที่ไม่เคยไป เพื่อค้นหาเรื่องราว เข้าใจที่มาที่ไป รู้จักชีวิตหรือความคิดของคนต่างถิ่น ทุกสุดสัปดาห์ จะต้องเสาะหาสถานที่เที่ยวที่สามารถเดินทางได้ใน 1 วัน และทุกวันหลังเสร็จจากภารกิจงานและชีวิต มุ่งหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
Previous post เล่นกับผีเสื้อใจดี ที่อุทยานผีเสื้อและแมลง สวนรถไฟ กรุงเทพฯ
Next post ชีวิตติดชิล พริ้วไปกับสายน้ำลำคลอง ที่คาเฟ่ Do Do Blah Blah ริมคลองประเวศบุรีรมย์ ลาดกระบัง