ADayoff กำลังจะพาทุกคนเดินทางกันต่อ จากที่วัดราชบูรณะในตอนที่แล้ว ไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยากันต่อเลย
ความเดิมจากตอนที่แล้ว ที่วัดราชบูรณะ
ก่อนเดินทาง ขอทบทวนถึงความสำคัญของวัดราชบูรณะกันสักนิดว่า วัดราชบูรณะสร้างขึ้นในรัชสมัยเจ้าสามพระยา เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้พระราชบิดาพระอินทราชา พร้อมทั้งนำเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ชุดเครื่องราชูปโภค และพระพุทธรูปจำนวนมาก ไปบรรจุไว้ที่กรุใต้พระปรางค์ และถูกปิดผนึกเป็นความลับในพระปรางค์มากว่า 600 ปี
จนความจริงมาปรากฎเมื่อปี พุทธศักราช 2499 เมื่อมีโจรประมาณ 20 คน ลักลอบบุกรุกเข้าไปขนทองจากรุออกไป ใช้เวลาเกือบ 3 วัน จนเป็นข่าวใหญ่บนหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในเวลานั้น ประมาณการกันว่าทองในกรุน่ามีปริมาณมากถึง 100 กิโลกรัม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามของกลางกลับมาได้เพียง 20% ส่วนที่เหลือสันนิษฐานว่าถูกหลอม หรือ การขายต่อไปหมดแล้ว
กว่าจะเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา
จากเหตุการณ์ดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปที่โรงพัก จังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วยพระองค์เอง ได้มีพระราชปรารภ โปรดให้นำโบราณวัตถุทั้งหมด (หรือของกลางที่ตามกลับมาได้) มาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ และเพื่อเป็นการอนุรักษ์สมบัติของชาติ โดยมีพระบรมราชานุญาต ให้ตั้งชื่อพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ผู้สร้างวัดราชบูรณะนั่นเอง
มีโบราณวัตถุอะไรน่าชมที่พิพิธภัณฑ์
- ชมไฮไลท์เครื่องทองของมหากษัตริย์จากกรุวัดราชบูรณะ
- วัตถุโบราณถวายเป็นพุทธบูชา และกรุจำลองที่วัดราชบูรณะ
- เรียนรู้คติการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และแหล่งที่พบพระบรมสารีริกธาตุในอยุธยา
- กราบพระบรมสารีริกธาตุวัดมหาธาตุ
ชมไฮไลท์เครื่องทองของมหากษัตริย์จากกรุวัดราชบูรณะ
เครื่องทองจากกรุวัดราชบูรณะ ที่จะยังหลงเหลือให้เราได้ชมกันจะจัดแสดงอยู่ที่ห้องนิทรรศการที่ 1 และ 2
ห้องนิทรรศการที่ 1 จะจัดแสดงเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องสูง เครื่องราชูปโภค และเครื่องถนิมพิมพาภรณ์ของพระเจ้าอินทราชาและพระบรมวงศานุวงศ์ เราจะพบเห็นทั้งวัตถุที่มีขนาดใช้งานได้จริง และย่อเป็นขนาดจำลองเพื่อถวายแด่องค์พระเจ้าอยู่หัว ขณะเดินชม เราก็จินตนาการไปด้วยว่ากรุมหาสมบัติส่วนที่เหลืออีก 80% ที่สาบสูญไป จะมากมายก่ายกองขนาดไหน เอาล่ะ เรามาดูสิว่ามี กรุทองที่ยังเหลือให้คนรุ่นหลังได้ชม มีอะไรน่าสนใจ
พระแสงขรรค์ชัยศรี
เครื่องต้นและเครื่องประดับ
วัตถุโบราณถวายเป็นพุทธบูชา และกรุจำลองที่วัดราชบูรณะ
ห้องนิทรรศการที่ 2 ออกแบบจำลองบรรยากาศว่าเราอยู่ในกรุชั้น 2 ตรงกลางจะพบพระปรางค์จำลองสีทองตั้งอยู่ตรงกลาง โดยด้านล่างหรือกรุชั้นที่ 3 จะแสดงจุดที่ตั้งพระบรมสารีริกธาตุ ตามผนังโดยรอบจะจัดแสดงศิลปวัตถุเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ได้แก่ พระพิมพ์ พระปรุ พระเครื่อง ที่พบในกรุ
ครอบและพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
พระเครื่องที่พบในกรุพระปรางราชบูรณะ
เรียนรู้คติการการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และแหล่งที่พบพระบรมสารีริกธาตุในอยุธยา
ที่ห้องนิทรรศการที่ 4 มีวัตถุจำลองรูปแบบการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุตามความเชื่อแบบอินเดียอยู่กลางห้อง พร้อมวิดีทัศน์เพื่อการศึกษา จากนั้น เราสามารถเดินต่อไปยังห้องนิทรรศการที่ 5-8 เพื่อดูแผนผังการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในวัดและเจดีย์สำคัญในสมัยอยุธยา ได้แก่ พระเจดีย์ศรีสุริโยทัย วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดพระราม และ วัดมหาธาตุ นอกจากนั้น ยังจัดแสดงวัตถุโบราณที่พบในกรุในสถานที่ดังกล่าวอีกด้วย
เจดีย์แก้วผลึกทรงหกเหลี่ยมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และเครื่องสูง พบที่พระเจดีย์ศรีสุริโยทัย ในห้องนิทรรศการที่ 5
ห้องนิทรรศการที่ 6 จัดแสดงพระบรมสารีริกธาตุวัดศรีสรรเพชญ์
กราบพระบรมสารีริกธาตุวัดมหาธาตุ
ที่ห้องสุดท้าย ห้องนิทรรศการที่ 8 จะจัดแสดงวิธีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่วัดมหาธาตุ พร้อมยังสามารถกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุได้ที่แห่งนี้
ความพิเศษของวันนี้ ในขณะที่กำลังเดินชมที่ห้องสุดท้าย มีคณะพระสงฆ์และสามเณรเข้ามาเยี่ยมชม พระสงฆ์ได้นำสวดสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ เราจึงเดินไปนั่งสวดและอธิษฐานตาม นับได้ว่าเป็นความโชคดี ถือว่าธรรมะจัดสรรให้มาได้ทั้งความรู้ และสิริมงคลกลับบ้านไป
เที่ยวอยุธยาครั้งนี้ ใช้เวลาเพียง 1 วัน เริ่มจากตามรอยกรุทองสมบัติที่วัดราชบูรณะ และเดินทางมาดูกรุทองของจริงกันต่อที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา นับว่าเป็นความประทับใจในศิลปะของช่างทองกรุงศรีอย่างยิ่ง เห็นความละเมียดละไมของการออกแบบและจัดทำ บ่งบอกเอกลักษณ์ของชาติ และความเป็นอารยะของประเทศ ทำให้เกิดความภูมิใจที่เกิดในแผ่นดินไทย
และวันนี้ ADayoff ได้รวบรวมเนื้อหาและภาพมาเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไทย และส่งต่อความรู้ให้ลูกหลานชาวไทย