คาโบนาร่า จานนี้ของผมคนเดียวเท่านั้นนะครับ!!

เปลี่ยนความเบื่อที่ต้องหาอาหารให้ลูกกินแต่ละมื้อ ให้เป็นความสนุกในการฝึกทำอาหาร คือ หนึ่งกลยุทธ์มา-นุด-แม่ วันนี้ จะมาแชร์สูตรคาโบน่าร่าหลังจากที่ทำประมาณสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แบบที่ว่าแอนดี้บอกไม่กินนอกบ้าน รอกินสูตรนี้อย่างเดียว (ปล. อ้อนแม่ หรือโดนแม่หลอก ฮ่าฮ่า) 

ส่วนผสม 

  1. เบคอน เลือกเบทาโกรแบบไม่มี โซเดียมไนเตรท (หรือดินประสิว) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง หากกินเป็นเวลานาน นุ่ม
  2. พามาซานชีส แนะนำแบบเป็นก้อนและมาขูดเอา สักกำมือ
  3. Cooking Cream แนะนำสองยี่ห้อ President Professional หรือ Elle & Vire จากฝรั่งเศส
  4. เส้นสปาเก๊ตตี้ยี่ห้อเมลิโอลา (Meliora) พาสต้าพิซิ (จะใหญ่กว่าแบบปกตินิดหน่อย)
  5. กระเทียมสับ หยิบมือ (บางสูตรไม่ใช้นะคะ เราไทยๆ ต้องมาสายกระเทียม)
  6. ไข่แดงเท่านั้นไม่เอาไข่ขาว
  7. Oliver oil 1 ช้อนชา
  8. เกลือโรยหยิบมือ
  9. พริกไทยดำ บด

ลำดับการทำและเทคนิค

1. ตั้งน้ำร้อนในหม้อ ใส่น้ำมัน Olive oil และเกลือ จนน้ำร้อนเต็มที่ ใส่เส้นสปาเก๊ตตี้

2. ตั้งกะทะร้อน ลงเบคอนที่สับ ผัดไปมา จนน้ำมันจากเบคอนออกเต็มที่ แนะนำตักน้ำมันออก จากนั้น ใส่กระเทียมสับเพิ่มรสชาติ

3. ระหว่างรอต้มสปาเก๊ตตี้สุก ทำซอสคาโบนาร่า ด้วยการผสม Cooking Cream ประมาณครึ่งกระป๋อง กับ ไข่แดง และ พามาซานชีสที่ขูดแล้ว 3/4 (เก็บไว้ 1/4 ไว้โรยตอนจบ) และคนให้เข้ากัน

4. ตรวจสอบเส้นสปาเก๊ตตี้ให้อยู่ในระดับที่แข็งนอกนุ่มใน เพราะว่า เราจะนำไปผัดต่อ ถ้าสุกนิ่มเกินไป จะทำให้สุกเละไปหมดค่ะ สุกพอดีและ ยกสะเด็ดน้ำ จากน้ำเย็น ตั้งรอ

5. ตรวจสอบเบคอน ว่าคลุกเคล้ากับกระเทียมสีสวย เข้มแต่ไม่เกรียมไหม้ เปิดไฟแรงสุก นำสปาเก๊ตตี้ที่สะเด็ดน้ำ ลงไปผัดเลยให้ไฟแรงๆๆ จนเส้นสีเหลืองเข้มขึ้น (อันนี้ นำความเป็นไทยมาผสม ที่ผัดกลิ่นแรงๆ)

6. จากนั้น ปิดกะทะ เทซอสคาโบนาร่า ลงกะทะ สำคัญต้องคลุกทันที และแนะนำว่า ยกกะทะลอยนิดๆ เพราะว่าหากสุดเกินไป เกินหลายเป็นทอดไข่แดงไป มันจะจับตัว พยายามให้การคลุกซอสติดเส้น แล้วเทลงจาน

จากนั้น โรย พามาซานชีสที่ขูดแล้ว 1/4 โรยพริกไทย เสิร์ฟเลย แนะนำว่า ต้องกินเลยนะคะ ทิ้งไว้ไม่อร่อยค่ะ

ลองกันดูนะค่ะ ไม่ยากเลย ประหยัดเงิน และลูกกินเต็มอิ่ม ด้วยวัสดุสุขภาพดี ใครมึเทคนิคดีๆ ก็แชรก็ได้นะคะ มีความอร่อยอย่าเก็บไว้คนเดียวค่ะ

เหตุผลเดียวที่ทิ้งเกมส์ 🙂

ไม่แบ่งนะฮะ
Errorlloyd

Errorlloyd

เริ่มการท่องเที่ยวสะพายกล้อง มาตั้งแต่อายุ 29 ปี มิชชั่น คือ ทุกปีต้องเดินทางไปที่ที่ไม่เคยไป เพื่อค้นหาเรื่องราว เข้าใจที่มาที่ไป รู้จักชีวิตหรือความคิดของคนต่างถิ่น ทุกสุดสัปดาห์ จะต้องเสาะหาสถานที่เที่ยวที่สามารถเดินทางได้ใน 1 วัน และทุกวันหลังเสร็จจากภารกิจงานและชีวิต มุ่งหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
Previous post รับพลังบวกที่ Ittha Boutique Cafe กรุงเทพ
Next post บางคล้า แดนรบกับพม่าจุดสุดท้าย ของพระเจ้าตาก หลังเสียกรุงศรีฯ