เลซี่กันไปถึงขอบฟ้า ที่ หัวปลี เลซี่ บีช รีสอร์ท หาดปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์

กำลังหาที่เที่ยวสงบๆ ริมทะเล แบบที่ตื่นมาแล้วก็เห็นทะเล และเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงหาดทราย กันอยู่หรือเปล่า? ยังไม่พอ ต้องมีลมทะเลโชยเรื่อยๆ เอื่อยๆ สร้างบรรยากาศให้อยากนอนเลื้อยบนที่นอนและหาดทรายทั้งวัน ทำให้ลดความบ้าพลัง กระตุ้นต่อม “ขี้เกียจ หรือ เลซี่ (Lazy)” ลืมเรื่องงาน ลืมเรื่องภาระทางสังคม จนร่างกายได้พักอย่างเต็มที่  มีที่อยู่พักแห่งหนึ่ง อยู่ริมหาดปราณบุรี เดินทาง 3-4 ชั่วโมงจากกรุงเทพ เราไปประจำประมาณปีละครั้ง และที่นั่น คือ หัวปลี เลซี่ บีช รีสอร์ท มาลองค้นหากันเลย

ความน่าสนใจที่ชวนให้ต้องเลซี่

  1. ชิลกับบรรยากาศแบบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วยบังกะโลสีขาวตัดขอบฟ้าสีฟ้า 
  2. เสิร์ฟอาหารเช้า Homemade Cooking ในสไตส์เนเชอรัลอาร์ต 
  3. ทอดอารมณ์ไปกับชายหาดสงบ และสนุกกับกิจกรรมได้ทั้งวัน
  4. หนีเที่ยวเขากะโหลกกินอาหารทะเล ไหว้พระ ชมวิว

มารู้จักหัวปลี เลซี่ บีช รีสอร์ท กันสักนิด

หัวปลี เลซี่ บีช รีสอร์ท (Hua Plee Lazy Beach Resort) เปิดทำการมาหลายปีแล้วตั้งแต่ยุคที่พักย่านริมหาดปราณบุรีเพิ่งเริ่มเป็นที่นิยม เราและครอบครัวแวะไปชมที่พักมาหลายที่แล้ว แต่สุดท้าย เราก็ตัดสินใจเลือกวันพักผ่อนที่หัวปลีทุกครั้ง เพราะบรรยากาศที่รู้ใจคนอยากพักผ่อนอย่างแท้จริง

ความโดดเด่นของหัวปลี เลซี่ บีช รีสอร์ท คือ การออกแบสไตล์ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
บังกะโลสีขาวตัดขอบฟ้าสีฟ้า

รีสอร์ทอยู่ริมหาดปราณบุรีด้านใต้หรือใกล้บริเวณเขากะโหลก การเดินทางง่ายๆ ใช้ถนนเพชรเกษม หรือ ทางหลวงหมายเลข 4** จากกรุงเทพ ขับผ่านชะอำและหัวหิน แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางทางหลวงสายรองหมายเลข 3168 ขับไปจนถึงถนนเลียบชายหาด เลี้ยวขวาขับเลียบชายหาดชมวิวไปเรื่อยๆ ประมาณ 15 นาที หัวปลี เลซี่ บีช รีสอร์ท จะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ 

**Tip: หากต้องการเลี่ยงรถติดบริเวณเมืองชะอำและหัวหิน เราสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 37 เพื่อเลี่ยงเมือง โดยทางหลวงหมายเลข 37 จะแยกจากทางหลวงหมายเลข 4 ก่อนถึงชะอำ และกลับมารวมกับทางหลวงหมายเลข 4 อีกทีเมื่อเลยหัวหิน

บรรยากาศทางเข้า เราสามารถจอดรถด้านหน้าได้เลย

ชิลกับบรรยากาศแบบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วยบังกะโลสีขาวตัดขอบฟ้าสีฟ้า

ภาพแรกเมื่อเดินเข้าไป คือ จะเห็นสนามหญ้าเขียวขจีตรงกลาง มีบังกะโลและอาคาร 2 ชั้นเตี้ยๆ แบบเมดิเตอร์เรเนียนที่เรียงรายขนาบกับสนามหญ้านั้น ห้องอาหารและที่พักจำนวน 12 ยูนิตล้อมสนามเป็นตัวยู  แต่ละยูนิตแทรกตัวอยู่ท่ามกลางต้นลั่นทม และต้นไม้น้อยใหญ่อื่นๆ 

บริเวณทางเข้า
นั่งรับลมทะเล จิบเครื่องดื่มเย็นๆ
นอนเอนหลังชมวิวกันทั้งวัน

หลังจากขับรถทางไกลมา เกิน 4 ชั่วโมง เช็คอินเข้าห้องพักและวางกระเป๋าเดินทาง ขอชวนทุกคนไปยืนเส้นยืดสายกลางสนามหญ้า มองภาพความประทับใจทะเลตัดขอบฟ้าสีคราม ณ สนามหญ้าแห่งนี้ เราสามารถนั่งชิลดื่มกินที่โต๊ะสนาม หรือ นอนเอนกายพักที่เก้าอี้สนามชมวิวได้ทั้งวัน

บรรยากาศโต๊ะยาวกลางสนาม สำหรับการสังสรรค์กลุ่มใหญ่

บ้านพักมีความอบอุ่นในคอนเสป ศิลปะจากท้องทะเล (Art of the Sea) ตั้งแต่การตั้งชื่อห้องพัก จนไปถึงการตกแต่งภายใน  ห้องที่เราเข้าพักรอบนี้ ชื่อ ห้องปลาหมึก มีเจ้าปลาหมึกนูนต่ำเจ้าของห้องเลื้อยอยู่ที่ผนัง บรรยากาศเห็นทั้งสวนและทะเล  ภายในห้องตกแต่งผสมผสานสีสัน เครื่องประดับจากทะเล

ด้านหน้าห้องปลาหมึก (ด้านซ้าย)
บรรยากาศในห้องปลาหมึก
มุมโซฟาในห้องปลาหมึก

เสิร์ฟอาหารเช้า Homemade Cooking ในสไตล์เนเชอรัลอาร์ต

ความน่ารักของอาหารเช้าที่รีสอร์ท คือ การเสิร์ฟชุดอาหารตกแต่งสวยงามโดยนำวัตถุดิบจากท้องทะเลมาใช้ประโยชน์ และประดับประดาด้วยดอกไม้ที่ปลูกรอบๆ ที่พัก

ห้องอาหารโปร่ง นั่งชมวิวไป กินไป
มื้อเช้าแบบ Slow life

เปลือกหอยน้อยๆ ถูกดัดแปลงเป็นที่ใส่น้ำตาลทราย ส่วนดอกเข็ม ดอกอัญชันเสิร์ฟในจานอาหาร สร้างความโรแมนติกอ่อนโยน และความสดชื่นให้กับการเริ่มมื้อเช้าวันใหม่ 

เปลือกหอยเป็นภาชนะใส่น้ำตาล

อาหารมีให้เลือก 3 อย่าง คือ ข้าวต้ม ไข่กระทะ American breakfast พร้อมเครื่องดื่มเป็นกาแฟ หรือโอวัลติน ในเมนูเขียนระบุชัดว่า การบริการอาหารที่รีสอร์ทนี้ เป็นแบบ “Slow Food” หรืออาหารช้าหน่อยนะ ขอให้นั่งอ่านหนังสือ เล่นมือถือหรือ ใช้ชีวิตแบบ “Slow Life” สไตล์เลซี่ รอกันก่อน เมื่อได้กินแล้วรับรองอาหารอร่อยแน่

ไข่กระทะ
ข้าวต้มใส่ใบโหระพา ซุปอร่อยมาก
ผลไม้ตามฤดูกาล

ทุกเช้าที่เราเดินไปกินข้าวที่โรงอาหาร จะเห็นหมา-แมว 1 คู่ที่เป็นไม้เบื่อไม้เบาแต่น่ารัก คือ เจ้าหมาชื่อแฮปปี้ และเจ้าแมวชื่อเอลซ่า มาเดินป้วนเปี้ยนตลอด ทั้งแฮปปี้ และเอลซ่า อาจจะดูหมางเมินกัน แต่ก็ใจดีกับแขกทุกคนที่มาเยือน

หมาแฮปปี้ และแมวเอลซ่า

รีสอร์ทมีบริการอาหารเช้า และอาหารเที่ยง ถึงมื้อเย็นเราสามารถเดินไปกินอาหารทะเลที่ร้านข้างๆ รีสอร์ท หรือถ้าหากอยากกินพิซซ่า หรือสปาเก็ตตี้ มีร้านขายอาหารอิตาเลี่ยนใกล้ๆ ขับรถไปไม่เกิน 5 นาที และยังมีร้านสะดวกซื้อ 7/11 อยู่ใกล้ๆ อีกด้วย

ทอดอารมณ์ไปกับชายหาดสงบ และสนุกกับกิจกรรมได้ทั้งวัน

นอนๆ นั่งๆ เลซี่นานๆ เข้าอาจจะเบื่อได้ มาหากิจกรรมยืดเส้นยืดสายทำดีกว่า… เราขอแนะนำกิจกรรมหน้าหาด 

บรรยากาศหน้าหาดที่เป็นส่วนตัว

หน้าหาดมีความสงบ ส่วนตัว เด็กลงไปเล่นได้ปลอดภัย น้ำและทรายชายหาดไม่สกปรก แต่อาจจะไม่ใสแบบน้ำทะเลตามเกาะ หากพาเด็กๆ มาเที่ยว กิจกรรมสำคัญ คือ การเล่นทราย เก็บเปลือกหอย หากจะลงน้ำทะเล ก็ควรจะอยู่ในการดูแลของผู้ใหญ่อย่างใกล้ชิด 

แอนดี้ เล่นทรายทั้งวัน
กิจกรรมชายหาด
กิจกรรมเก็บเปลือกหอย

เที่ยวเขากะโหลก กินอาหารทะเล ไหว้พระ ชมวิว

ในขณะที่ยืนชมวิวทะเลปราณหน้ารีสอร์ท หากเรามองไปสุดลูกหูลูกตา ทางขวามือ  จะเห็นภูเขาลูกใหญ่ที่ปลายหาดปราณ  ไปค้นหาข้อมูลพบว่า เขาลูกนี้ ชื่อ เขากะโหลก และก็ขับรถออกไปเที่ยวที่นั่นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

วิวเขากะโหลกมองจากรีสอร์ท

เขากระโหลกเป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆ รีสอร์ท ขับรถแค่ 10 นาทีถึง  บริเวณนี้ มีที่แหล่งท่องเที่ยวหลายอย่าง

ถ้าชอบเดินป่าป่ายปีนก็เดินตะลุยขึ้นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเขากะโหลก  ทางไม่ชัน เส้นทางขึ้น-ลงเขาใช้เส้นทางเดียวกัน  ถ้าสายบุญ แวะไปวัดเขากะโหลก  ถ้าสายกินก็จอดกินอาหารทะเลที่ร้านค้าสวัสดิการเขากะโหลก อาหารไม่แพงราคากันเอง สั่งกลับบ้านได้  

วัดเขากะโหลก ไหว้พระและชมศิลปกรรม
วิวหน้าร้านอาหารสวัสดิการ
อ่านคำคม “จงมองปัญหาให้เท่ากับเม็ดทราย” ตีความได้ว่าปัญหานั้นเล็ก หรือ ปัญหามีเยอะมาก 😀
ปูม้านึ่งที่ร้านค้าสวัสดิการเขากะโหลก ราคากันเองมาก

ถ้าชอบถ่ายรูป ก็ถ่ายภาพเรือประมงที่จอดหลบลมที่ด้านหลังเขา (หรือตรงหน้าร้านอาหารสวัสดิการ) ชวนให้พวกเรามาแต่งชุดสวยเพื่อถ่ายภาพกับวิวเรือประมงที่นี่ได้​

เรือประมงที่หลังเขากะโหลก
จากหาดเขากะโหลกวิว เราจะเห็นเขาสามร้อยยอดทอดยาว
ป้ายสุดอำเภอปากน้ำปราณ และ อำเภอสามร้อยยอด

สรุป การมาหยุดพักร่างกายที่ หัวปลี เลซี่ บีช รีสอร์ท เป็นการรีชาร์ตร่างกายให้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ได้เล่นน้ำทะเล ได้พาลูกมาเล่นทราย ได้ไหว้พระ ได้กินอาหารทะเลสดๆ ถ่ายภาพสวยกับเรือประมง นับว่าใช้ชีวิตในวัน aDayoff แบบเลชี่สุดๆ ได้คุ้มจริงๆ 

ฝากภาพสุดท้ายเพื่อการคอมเฟิร์มว่า มาแล้วจะต้องนอนเลซี่ทั้งวัน ดูจากน้องแอนดี้สิจ๊ะ ฟินๆๆ

📍ที่ตั้ง 

163 หมู่ 4 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี .ประจวบคีรีขันธ์ 77220
​Google Location: https://goo.gl/maps/fkLKG41LShyCEWBG8

💳ค่าเข้า-ค่าบริการ

ที่พัก 2,900-9,000 บาท โดยประมาณ ตรวจสอบราคาล่าสุดกับรีสอร์ทโดยตรง

🚘การเดินทาง

ทางรถยนต์ : ใช้ทางหลวงสาย 4 (เพชรเกษม)​ เลี้ยวซ้ายไปทางทางหลวงสายรองหมายเลข 3168 ขับไปจนถึงถนนเลียบชายหาด เลี้ยวขวาขับเลียบชายหาด ประมาณ 15 นาที จะถึงที่หมาย
ทางรถไฟ : นั่งรถไฟสายใต้ผ่านหัวหิน ปราณบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ลงสถานีปราณบุรี 
รถประจำทาง​ : รถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์ กรุงเทพฯ-หัวหิน กรุงเทพฯ-ปราณบุรี และกรุงเทพฯ-บางสะพาน ลงสถานีแล้วต่อรถเข้ามาที่รีสอร์ท

📆เปิดทำการ

ทุกวัน

Errorlloyd

Errorlloyd

เริ่มการท่องเที่ยวสะพายกล้อง มาตั้งแต่อายุ 29 ปี มิชชั่น คือ ทุกปีต้องเดินทางไปที่ที่ไม่เคยไป เพื่อค้นหาเรื่องราว เข้าใจที่มาที่ไป รู้จักชีวิตหรือความคิดของคนต่างถิ่น ทุกสุดสัปดาห์ จะต้องเสาะหาสถานที่เที่ยวที่สามารถเดินทางได้ใน 1 วัน และทุกวันหลังเสร็จจากภารกิจงานและชีวิต มุ่งหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
สะพานจอดเรือชาวประมงที่บางเสร่ Previous post หนึ่งในการสร้างระบบนิเวศน์ และอาชีพประมงให้ยั่งยืน ด้วยวิธีง่ายๆ ที่สะพานจอดเรือชาวประมงต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
Next post หลงทางมาเจอเบเกอรี่ที่ตามหา “ดุสิต กรูเมต์” ซอยศาลาแดง