วัดสวนแก้ว ระบบนิเวศน์แห่งโอกาส

วันนี้ ขนเครื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ อุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน ไปบริจาคที่วัดสวนแก้วเต็มคันรถ เพราะได้ศึกษาวิธีการจัดการของวัดในการสานประโยชน์จากรับบริจาค นำไปซ่อมแซม แก้ไขให้กลับมาใช้ได้ใหม่ จากนั้น ก็มาจำหน่ายเพื่อให้คนมาบริจาคอีกต่อ

มาถึงแล้วไม่คุ้นวิถีของวัดเท่าไหร่นัก ปรกติไปวัดเราจะคุ้นชินกับทางเข้าที่มีซุ้มประตู มีโบสถ์ มีวิหาร แต่ทว่า การปลูกสร้างไปเป็นแบบเรียบง่ายท่ามกลางต้นไม้ใหญ่น้อย และมีตลาดผักและผลไม้ คนผลุกผล่าน เจ้าหน้าดูกระตือรือร้น

ขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกวันนี้ได้มาถวายสังฆทานกับพระพยอม เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว (ปล. แต่งกายไม่ค่อยเหมาะสม เพราะแรกเริ่มกะมาแค่บริจาคของแล้วกลับบ้าน)

เมื่อขนของบริจาคลงจากรถเสร็จ เจ้าหน้าที่วัดชวนไปถวายสังฆฑานกับเจ้าอาวาส “พระพยอม” นับเป็นบุญที่ได้พบกับท่าน จากนั้น ด้วยความสงสัย จึงตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมวัดนี้ จึงมีสภาพดูเรียบง่ายแต่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และตามเคย Adayoff ต้องหาคำตอบ

ความพิเศษของวัดสวนแก้ว หนึ่งเดียวในประเทศไทย

  1. ปรัชญาพระพยอม “เผยแพร่ สงเคราะห์ พัฒนา”
  2. “ให้มาให้กลับ” ถวายสังฆทานผลผลิตของวัด และสามารถนำกลับบ้านได้ 
  3. “โอกาสชีวิต” เลี้ยงโค กระบือ ที่รอดชีวิตจากโรงฆ่าสัตว์ 
  4. นั่งรถเที่ยวสวนกว้างประมาณ 380 ไร่ 

ปรัชญาพระพยอม “เผยแพร่ สงเคราะห์ พัฒนา”

สาเหตุที่วัดสวนแก้วไม่มีโบสถ์​และวิหารใดๆ แต่กลับมีพื้นที่วัดใหญ่โตเกือบ 400 ไร่ พร้อนสวนพืชผัก และคอกสัตว์มากมาย  เป็นเพราะ พระพยอม ท่านเจ้าอาวาสยึดหลักการ “เผยแพร่ธรรมะ สงเคราะห์ผู้ยากไร้ พัฒนาคนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี” เป็นหลักการปฏิบัติของท่าน ท่านจึงไม่เอาเงินที่ได้รับจากการบริจาคไปสร้างโบสถ์ วิหาร แต่ท่านเลือกที่จะไปซื้อที่ดิน เพื่อเป็นที่ทำมาหากินของผู้ยากไร้ดีกว่า  เพราะการทำให้คนมีอาชีพ เขาจะได้มีโอกาสทำมาหากิน จะได้มีเงินไปตั้งตัว และมีโอกาสยืนในสังคมอีกครั้ง (ดูคลิปสัมภาษณ์จากรายการคนค้นตน)

คืนนั้น จำได้ว่า เป็นคืนพระจันทรเต็มดวง น้องตื่นมากลางดึก ร้องหาแม่ ได้ยินเสียงฟันดิน จึงเปิดหน้าต่างออกมาดู เห็นแม่กำลังฟันดิน จึงร้องเรียกแม่ แต่แม่บอกว่า ยอมเอ้ย เอ็งเอาน้องไปนอนก่อนเถอะ แม่จะปลูกกล้วย ปลูกอ้อย ไว้ให้ลูกกินกัน จะได้ไม่ต้องมองปากชาวบ้านเขากินกัน นี่คือ ความรักของแม่ที่มีต่อลูก อนุสาวรีย์แม่ ไม่ใช่เป็นของพระพยอมคนเดียว แต่นี้คือ อนุสาวรีย์ของแม่ทุกคน
(ข้อความจากป้าย สื่อความหมายอันยิ่งใหญ่ บอกปณิธานอันแรงกล้าของพระพยอมบนแผ่นดินผืนนี้)

วันนี้ ขณะนั่งรถไฟฟ้าไปเที่ยวชมสวน ได้พูดคุยเจ้าหน้าที่นำทางเราได้เปิดใจเล่าถึงประสบการณ์ของเขากับการเข้ามาทำงานที่วัด เขาผ่านชีวิตมาเยอะทั้งด้านมืดและสว่าง  ตั้งแต่เขาตัดสินใจออกจากสิ่งที่ผิด และมาเข้าทางวิถีของพระพยอมผู้มีความเมตตา ทำให้เขาเจอมิตรใหม่ที่ให้กำลังใจที่จะละทิ้งอดีต  เขาได้มีโอกาสที่มีชีวิตใหม่และปฎิบัติทำในสิ่งที่ถูกต้อง

คำพูดของน้องเจ้าหน้าที่ ทำได้เราได้รู้แจ้งเห็นจริง ผลจากการปฎิบัติของพระพยอมนั่นเอง 


“ให้มาให้กลับ” ถวายสังฆทานผลผลิตของวัด และสามารถนำกลับบ้านได้ 

สังฆทานผักรวมมิตร และผลไม้
มะม่วง ชมพูผลผลิตจากสวนในวัดทั้งหมด

วัดสวนแก้ว ได้นำพืช ผัก สวนครัว ผลไม้ จัดลงกระเช้า เพื่อทางเลือกให้กับผู้มาทำบุญในการทำสังฆทาน ความพิเศษ เพื่อเราถวายสังฆทานเสร็จสิ้น เราสามารถลาของสังฆทานกลับบ้านได้  วันนี้ เราเลือก 3 กระเช้า  2 กระเช้าแรก คือ พืชผักสวนครัว และกระเช้าสุดท้าย เป็นมะม่วง  สำหรับสองกระเช้าสองเราแจ้งความประสงค์ว่าเราจะไม่นำกลับบ้านแต่ขอให้แจกจ่ายให้ชาวบ้านที่มีช่วยงานในวัด ส่วนขอนำมะม่วงกลับเพียงถุงเดียว เพราะต้องการไปฝากคุณแม่ 

ถวายสังฆทานแล้ว เตรียมออกเดินทาง วันนี้ เจอคุณ Earth เพื่อนใหม่จากธรรมะจัดสรร พบกันตอนถวายสังฆทาน เลยเที่ยววัดกันยาวเลย ภาพนี้เรามานั่งที่รถเตรียมออกเดินทางเที่ยวชมพื้นที่วัดคร่า!

“โอกาสชีวิต”เลี้ยงโค กระบือ ที่รอดจากโรงฆ่าสัตว์ 

“ขนุน” อาหารระดับพรีเมียมสำหรับเลี้ยงสัตว์ ต้องป้อนสักหน่อย

เสร็จจากภารกิจจากการถวายสังฆทาน  ทางเจ้าหน้าที่แนะนำว่า “ทำบุญเลี้ยงสัตว์ไหมค่ะ” ตอนแรกไม่ค่อยสนใจ แต่สิ่งที่ทำให้สะดุดตา คือ เจ้าหน้าที่หยิบขนุนสุก! ที่ผ่าติดเปลือกแล้วบอกว่า อาหารสัตว์ ไม่คาดคิด! ต้องลองป้อนกันหน่อย

จากนั้นขึ้นรถไฟฟ้าลุยสวนไป เจอคอกปศุสตว์ วัว ควาย แพะ เยอะมากๆ หน้าตาน่ารัก สุภาพเรียบร้อย และสุขภาพดี กำลังรอเราอยู่ 

น้องๆ หน้าตาดี อิ่มเอม และสุขภาพสมบูรณ์
ป้อนน้องกระบือ กลัวและเกร็งมากอ่ะ!

ป้อนลูกวัว อันนี้ง่าย น้องแรงน้อย

วัว ควาย มาจากไหน ทำไมเยอะขนาดนั้น ปรกติไปวัวก็เจอ 2-3 ตัว และก็มีป้ายใหญ่ทำบุญโน่นนี่นั่น  เจ้าหน้านี้ น้องชูเกียรติ์บอกว่า “วัว ควายเหล่านั้น หลวงพ่อไถ่มา หรือไม่ก็สาธุชนไถ่มาแล้ว ไม่มีที่เลี้ยงหรือเลี้ยงไม่ไหว เลยมาไว้ที่วัด” เฮ้ย! ถามต่อ “ทำหมันไหมอ่ะ” เด่วออกลูกออกหลานกัน เจ้าหน้าที่บอก “ไม่ทำนะ” หันไปเจอลูกวัวเดินไปมา


นั่งรถเที่ยวสวนกว้างประมาณ 365 ไร่ “ระบบนิเวศน์ของครอบครัวหลังใหญ่”

จากนั้น นั่งรถชมสวนไป เจ้าหน้าที่ขับรถไปซอกซอยต่างๆ สวนใหญ่กว้างขวางมาก มีต้นไม้ ผลไม้นานาพรรณ มีสวนน้ำขนาดใหญ่ ตรงกลางเป็นสวนกระบองเพชร สร้างโดยเจ้าของสวนนงนุช  

ทางเข้าสวนแคตตัส
วงเวียนแคตตัสกลางบึงน้ำ
บรรยกาศรอบๆ บึงน้ำ

ระหว่างเดิน เห็นเจ้าหน้าที่ทำงานตามมุมต่างๆ ในสวน ทราบมาว่ามีทั้งหมดร่วม 90 คน ดูแลผลผลิตทางเกษตรกรรม เพื่อมาจำหน่ายรับบริจาค และพวกเขาก็ได้ค่าจ้างด้วยเช่นกัน บางคนที่เติบโตมากับทางวัด แล้วสำเร็จการศึกษาด้านช่าง หรือ เทคนิค ก็ดูแลการซ่อมแซมของบริจาค และนำมาจำหน่ายที่จุดบริจาคอีกเช่นกัน 

ให้พื้นที่ทำกิน ให้ประกอบอาชีพ ให้การศึกษา ให้ที่อยู่อาศัย ให้ขีวิตใหม่ และให้อนาคต ระบบนิเวศน์ของพ่อพระผู้เมตตา ทำให้ลูกผู้ด้อยโอกาส ให้มีที่ยืนในสังคม

ไก่เลี้ยงตามธรรมชาติ

เป็ดน้อยที่บึงใหญ่
การดูแลชมพูไม่ได้โดยแมลงกัดกิน
โรงเพาะไส้เดือน
ขายดินมูลไส้เดือน

วันนี้ แวะมาที่่วัดเพื่อบริจาคโดยไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวชมวัด แต่กลับได้แนวคิดแนวปฎิบัติในการดำรงชีวิต ก่อนลากลับบ้าน เราเข้าไปกราบลาพระพยอม และบอกท่านว่าวันนี้ได้เรียนรู้แนวคิด แนวปฎิบัติจากท่าน และในฐานะอุบาสิกา จะน้อมไปปฎิบัติ เพื่อให้โอกาสแต่บุคคลด้อยโอกาสในสังคม

เมื่อเราได้โอกาสจากสังคมแล้ว เราก็ควรจะให้โอกาสกับคนที่ไม่ได้รับโอกาส ได้สิ่งนั้นบ้าง

Errorlloyd

Errorlloyd

เริ่มการท่องเที่ยวสะพายกล้อง มาตั้งแต่อายุ 29 ปี มิชชั่น คือ ทุกปีต้องเดินทางไปที่ที่ไม่เคยไป เพื่อค้นหาเรื่องราว เข้าใจที่มาที่ไป รู้จักชีวิตหรือความคิดของคนต่างถิ่น ทุกสุดสัปดาห์ จะต้องเสาะหาสถานที่เที่ยวที่สามารถเดินทางได้ใน 1 วัน และทุกวันหลังเสร็จจากภารกิจงานและชีวิต มุ่งหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
Previous post รหัสลับอัจฉริยะ ลีโอนาร์โด ดาวินซี ที่ Da Vinci Alive Bangkok ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ
Next post เช้าวันหนึ่ง จิบชาเขียวออริจินัล เมืองอุจิ ญี่ปุ่น ที่เรโกะ คาเฟ่