เรื่องราวที่กำลังจะเขียนต่อไปนี้ ขอใช้วิจารณญาณในการอ่าน เพราะเนื้อหาที่จะเล่าทั้งหมดนี้ คือ การเล่าจากประสบการณ์จริง ที่พิสูจน์ไม่ได้

Adayoff พามาเที่ยวจันทบุรี EP2 กันต่อที่ วัดทองทั่ว ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี สถานที่ที่เป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์เมืองโบราณเพนียดตามที่ได้เล่าความ Unseen ใน EP1 โดยก่อนกลับ เราก็เห็นอุโบสถเก่า เลยตัดสินใจเดินขึ้นไปถ่ายภาพสัก 1 รูป เพราะคุณพ่อลิงและลูกลิงเหนื่อยกับการเดินทางมาทั้งวัน

วัดทองทั่วนั้น ตั้งชื่อตามตำนานแม่นางกาไว ที่หนีภัยจากการสงครามโค่นพระราชบัลลังก์ของพระโอรสในพระนาง แต่พระนางใช้อุบายเบี่ยงเบนการทหาร โดยพระองค์โรยทองไปทั่วบริเวณนี้ (ขยายความนิดนีง สงครามนี้ ฝ่ายตรงข้ามกับพระนางกาไว คือ พระราชโอรสในพระกษัตริย์องค์ที่สวรรคตไปแล้วกับพระราชินีอีกองค์ก่อนหน้า ไล่ล่าพระนางกาไว และโอรสร่วมพระราชบิดาแต่ต่างพระมารดา)

พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในอุโบสถเก่าวัดทองทั่ว
ขณะกำลังหามุมถ่ายรูปอุโบสถ พระสงฆ์องค์หนึ่งเดินมาจากศาลาด้านหน้า และบอกว่า “ไปไหว้หลวงพ่อทองก่อน และมีของจะให้”
เราก็มองเข้าไปอุโบสถเก่าเห็นพระประธานในอุโบสถสีทองอร่าม ดึงดูดให้เราเข้าไปสักการะ เลยเดินเข้าไป และสวดมนต์ และเดินไปลาพระสงฆ์ท่านนั้น




ท่านก็กล่าวว่า “เข้ามา จะให้อัฐิพระเจ้าตาก”
เอ้ะ ดังในใจ… ? เราได้ยินถูกต้องหรือไม่ และท่านก็นำพระบรมอัฐิของสมเด็จพระเจ้าตากสิน มาวางตรงหน้า เราตะลึงถามว่า “ของจริง นะคะท่าน” ดูไม่สุภาพแต่ด้วยความงงถามไปความสงสัย

พระสงฆ์จึงเล่าลักษณะของอุโบสถว่ามีเสมาคู่ อันเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นสูง (ศึกษาในภายหลังทราบว่า อุโบสถที่มีใบเสมาคู่ หมายถึง พระอุโบสถของพระอารามหลวงหรือวัดที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์)


“มีหลักฐานยืนยันไหมค่ะท่าน หรือ พบได้อย่างไร?” แอบละอายตัวเองแต่ก็ถามไป
พระสงฆ์ได้อธิบายอย่างยิ้มแย้มว่า ครั้งเมื่อฐานหลวงพ่อทองทรุดและพลิกเอียง ทำให้ฐานเปิดออก เลยพบผอบงาช้าง เปิดมาก็พบอัฐสองชึ้น พร้อมใบโพธิ์แผ่นทองที่จารึกว่า พระอัฐิพระเจ้าตาก พระยาจันทบูร (จันทบุรี) นำมา
“ยังมีใบบันทึกดังกล่าวไหมค่ะท่าน”
พระสงฆ์ตอบว่าสูญหายไป ท่านอธิบายต่อว่า ครั้งเมื่ออาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์ได้มาสำรวจผ้าที่ห่อพระบรมอัฐิ ลงความเห็นว่า คือ ผ้าของชนชั้นสูงระดับกษัตริย์
ณ ตอนนั้นเอง ทำให้เรานึกถึงครั้งเมื่อได้ไป บางคล้า ฉะเชิงเทรา ไปโดยไม่ได้วางแผนใดๆ เที่ยวไปพบว่าสถานที่ดังกล่าวมีความเกี่ยวกับหน้าประวัติศาสตร์สำคัญ คือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปะทะกับพม่าที่ปากน้ำโจ้โล้ ที่บางคล้า จนพม่าแตกพ่าย (หลังจากที่ตีฝ่าวงล้อมพม่าออกจากอยุธยา) ต่อจากนั้นพระองค์ก็เดินทัพมาทางตะวันออก เพื่อรวมไพร่พลที่จันทบุรี ไปกู้เอกราชจากพม่า

ณ เวลานั้น คิดไปว่า หรือนี่คือสาเหตุที่เราต้องมาบางคล้า ตั้งจิตไปว่า ถ้าการมาบางคล้าคือเรื่องจัดสรรจริง ก็จงขอให้อะไรดลใจเราไปจันทบุรี ต้องไปพบกับรอยพระเจ้าตากฯ อีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ว่า คือ เรื่องจัดสรร ไม่ใช่ความบังเอิญ
ผ่านมาเกือบสองปี ความคิดอยากพิสูจน์ก็ลืมเลือน จู่ก็อยากไปจันทบุรีก็เลยมา ผ่านมาจน ณ นาทีที่พูดคุยกับพระสงฆ์องค์นั้น ทำให้เรานึกขึ้นได้ และประจักษ์ลึกในใจว่า ทั้งบางคล้า ฉะเชิงเทรา และ ที่วัดทองทั่ว ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน
“ทำไมถึงนำมาให้ดูชมละคะท่าน สำคัญขนาดนี้” เราถามเพราะสงสัยไม่เลิก
พระสงฆ์ยิ้มแย้มตอบต่อไปว่า ท่านมีลูกหลาน ไพร่พลร่วมรบมามากมาย ถ้าบุญสัมพันธจะได้ประจักษ์เห็น


“เธอมาวัดนี้ทำไม เธอเป็นคนที่ไหน” พระสงฆ์ถามกลับ
เราบอกว่า มาจากกรุงเทพค่ะ มาดูพิพิธภัณฑ์ค่ะ ไม่คิดว่าจะได้เจอเรื่องนี้ และไม่ทราบมาก่อน พระสงฆ์ก็กล่าวต่อว่า “วัดนี้ไม่มีคนมาเท่าไหร่หรอกนะ เรามาดูสิ่งนี้ก็จงเห็นเถอะ อีกหน่อยจะไม่ได้เห็นแล้วนะ เพราะจะนำไปที่ศาลที่สร้างจวนเสร็จแล้ว”
หมดคำถาม ….. เพราะอิ้ง ก่อนกลับเราขออนุญาตภ่ายภาพ และขอไปเผยแพร่ พระสงฆ์ท่านยินดีและให้อนุญาต
ทั้งนี้ เมื่อกลับมาศึกษาเพิ่มเติม และค้นพบว่า พระบรมอัฐิของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถูกนำออกมาให้ประชาชนสรงน้ำในวันสงกรานต์เท่านั้น นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม? หรือนี่ คือ ภารกิจที่ได้รับ เพื่อการเผยแพร่รอยการกู้ชาติของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

Adayoff และผู้อ่านทุกคน ขอระลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทำให้คนไทยมีชาติไทยจนถึงวันนี้ และขอให้คนไทยในชาติรักและสามัคคีเพื่อให้ลูกหลานเรามีแผ่นดินอาศัยสืบไปค่ะ
ขออาราธนาเชิญดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ผ่านคาถาบูชาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ตั้งนะโม ๓ จบ
โอม สิโน ราชาเทวะ ชะยะตุภะวัง สัพพะศัตรู วินาสสันติ
20 กรกฎาคม 2568

อ่านต่อเนื่อง
บางคล้า แดนรบกับพม่าจุดสุดท้าย ของพระเจ้าตาก หลังเสียกรุงศรีฯ
Unseen จันทบุรี EP1 : ชมศิลปะขอมโบราณเมืองโบราณเพนียด
