ช่วงนี้ หลายคนได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ เรื่องการงาน หรือความไม่แน่นอนในชีวิต จนอาจจะทำให้รู้สึกเครียด หงุดหงิด
การเปิดใจยอมรับการเปลี่ยนแปลง และการใช้ชีวิตแบบพอเพียง น่าจะเป็นทัศนคติที่เหมาะสม ทำให้พวกเราก้าวข้ามเรื่องร้ายๆ ไปได้พร้อมกัน แต่ถ้าหากพยายามแล้วยังฟุ้งซ่าน ไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้ แนะนำว่าหยุดพักจากเรื่องเดิมๆ สักวัน ไปหากิจกรรมอื่นทำให้ลืมความวิตกกังวล
และวันนี้ aDayoff ขอแนะนำกิจกรรมง่ายๆ ใกล้ตัว คือ การไปเที่ยววัด และวัดที่จะแนะนำวันนี้ คือ วัดนาคปรก ถนนเทอดไท ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เพื่อไปไหว้พระพุทธรูป-สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในวัดเพื่อเป็นสิริมงคล และยังได้ร่วมกิจกรรมพิเศษที่หาได้ยากในวัดทั่วๆ ไป คือ การเดินลอดอุโบสถ เพื่อล้างอาถรรพ์
ความน่าสนใจห้ามพลาด
- สักการะพระพุทธรูปปางมารวิชัยพญานาคปรก และพระพุทธประธานหลวงพ่อเจ้าสัว เก่าแก่จากยุคสุโขทัย
- ไฮไลท์กิจกรรมลอดอุโบสถล้างอาถรรพ์ มนต์ดำ ใต้อุโบสถเจ้าสัวอายุเก่าแก่กว่า 270 ปี
- กราบหลวงพ่อโต และหลวงพ่อใหญ่ ที่วิหารหลวงพ่อโต เพื่อโชคลาภ การงาน
สักการะพระพุทธรูปปางมารวิชัยพญานาคปรก และพระพุทธประธานหลวงพ่อเจ้าสัว เก่าแก่จากยุคสุโขทัย
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 272 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2291 ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ สมัยอยุธยาตอนปลาย มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ร่วมจิตร่วมใจกันสร้างวัดที่นี้ สาเหตุการสร้างไม่ปรากฎชัดเจน ในเวลานั้น พื้นที่แห่งนี้มีสภาพเป็นสวน และมีต้นไม้ปกคลุม ชาวบ้านจึงตั้งชื่อวัดนี้ว่า “วัดปก” ตามลักษณะสิ่งแวดล้อม
ต่อมาวัดมีสภาพเสื่อมโทรมลง จนมาถึงในสมัยรัชกาลที่ 3 มีเจ้าสัวท่านหนึ่ง ชื่อ เจ้าสัวพุก แซ่ตัน โล้สำเภาจากเมืองจีน มาตั้งรกรากและแต่งงานกับคนไทย ทำมาหากินที่ย่านตลาดพลู ธนบุรี จนมีฐานะร่ำรวย
เจ้าสัวพุกเป็นผู้เสื่อมใสในพระพุทธศาสนา และชอบช่วยเหลือค้ำจุนคนในละแวกนั้น มีปณิธานที่จะสร้างวัดเพื่อแสดงความกตัญญูในผืนแผ่นดินไทย เจ้าสัวพุกจึงได้บูรณะอุโบสถโดยจ้างช่างฝีมือจากเมืองจีนมาเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องเครื่องมงคลจีน และเครื่องไหว้ภายในอุโบสถ
นอกจากนี้ เจ้าสัวพุก ยังสร้างวิหารเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักให้แก่ภรรยา และขอพระราชทานพระพุทธรูปปางมารวิชัยสมัยสุโขทัยมาอีกองค์มาประดิษฐานในวิหาร และสร้างพญานาค 7 เศียรด้วยปูนปั้น ขดกายแผ่พังพานขึ้นเหนือเศียรพระ จึงเป็นที่มาของชื่อ “วัดนาคปรก” และ “ชื่อวิหารนาคปรก” มาตั้งแต่บัดนั้น ต่อมาปี พ.ศ. 2520 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนวัดนาคปรกเป็นโบราณสถานแล้ว
ไฮไลท์กิจกรรมลอดอุโบสถล้างอาถรรพ์ มนต์ดำ ใต้อุโบสถเจ้าสัวที่มีอายุเก่าแก่กว่า 270 ปี
เมื่อไหว้พระประธานในวิหารและอุโบสถแล้ว ก็ถึงเวลาการทำกิจกรรมไฮไลท์ คือ “การลอดอุโบสถ“ ฟังดูแล้วอาจจะเกิดคำถามมากมายว่า ทำไมต้องลอดอุโบสถ? ทำไมอุโบสถนี้จึงลอดได้? และวิธีการลอดทำได้อย่างไร? วันนี้ aDayoff ขอไขขอสงสัยเป็นหัวข้อดังนี้
ทำไมต้องลอดอุโบสถหรือโบสถ์?
ความเชื่อเรื่องการลอดอุโบสถมีมานานตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน หากผู้ใดได้เดินลอดอุโบสถแล้ว คุณไสย มนต์ดำ เสน่ห์ยาแฝด สิ่งอัปมงคล ทั้งหลายที่ติดมาแต่ชาติก่อน ชาตินี้ หรือที่จะตามไปชาติหน้านั้น ก็จะหลุดไป และยังทำให้เราแคล้วคลาดโรคภัยไข้เจ็บ เสริมความเป็นสิริมงคล หนุนวาสนา บารมี รวมทั้งหน้าที่การงานอีกด้วย
ทำไมพระอุโบสถเจ้าสัวจึงมีทางเดินลอดได้? มีการสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาหรือเปล่า?
อุโบสถที่สามารถเดินลอดเพื่อถอนอาถรรพ์นั้น ไม่ได้เกิดจากการก่อสร้างตั้งแต่ลงเสาหลักปักฐาน แต่จะเกิดจากการยกอุโบสถขึ้นเพื่อหนีน้ำท่วมเป็นส่วนมาก ประมาณการว่า มีอุโบสถที่สามารถลอดได้ประมาณ 20 แห่งจากวัดทั้งหมดกว่า 30,000 แห่งในประเทศไทย
อุโบสถเจ้าสัว ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ทำการยกอุโบสถขึ้นในปี พ.ศ. 2554 เพราะ อุโบสถมีสภาพทรุดตัวเป็นอย่างมาก พื้นที่ภายในอุโบสถเปียกแฉะ พระครูวรกิตติโสภณ (เศรษฐกิจ) เจ้าอาวาส จึงตัดสินใจแก้ไขด้วยวิธีการยกอุโบสถขึ้น 5 เมตร ไม่เลือกใช้วิธีรื้อและสร้างใหม่ เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของสถาปัตย์โบสถ์แบบท้องเรือสำเภา (แบบตกท้องช้าง) จากสมัยกรุงศรีอยุธยาที่หาชมยาก การดำเนินการทั้งหมดใช้เวลาทั้งสิ้น 3 ปี และอยู่ภายใต้ความเห็นชอบจากกรมศิลปากร เพื่อรักษาศิลปะแห่งชาติที่มีอายุกว่า 270 นี้ไว้
ก่อนที่จะดำเนินการยกอุโบสถในครานั้น ช่างได้ขุดเจาะฐานลงไป 2 เมตร ทำให้เกิดใต้ถุนที่เราสามารถเดินลอดผ่านได้ อันเป็นที่มาของการเดินลอดอุโบสถเพื่อล้างอาภรรพ์ และเสริมสร้างความเป็นสิริมงมล ที่ชาวพุทธศาสนิกชน นิยมมาที่วัดนาคปรกกันอย่างไม่ขาดสาย
การลอดอุโบสถทำได้อย่างไร?
เดินลอดอุโบสถทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงแต่เดินวนสามรอบ ใต้อุโบสถตามทางที่วัดจัดเตรียมไว้ เดินวนตามเข็มนาฬิกา โดยในขณะเดินเราตั้งจิต สวดอาราธนาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และภาวนาขอให้หลุดจากอาถรรพ์-อัปมงคล ถอนคุณไสย์มนต์ดำ โรคกรรม คำมั่นสัญญา โดยบทสวดและคำภาวนา สามารถอ่านตามเอกสารที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ที่ทางเข้า
เมื่อลอดอุโบสถเสร็จ ก็น้อมกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใต้อุโบสถ ได้แก่ พระประธานใต้โบสถ์ และพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ที่เรียงรายตามทางเดิน ลูกนิมิตโบราณสมัยอยุธยาฝังมาตั้งแต่สมัยอยุธยา รอยพระพุทธบาทอินเดีย จากนั้น พรมน้ำมนต์จากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และปิดทองสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อหนุนวาสนา บารมี ความมั่งมีศรีสุข
กราบหลวงพ่อโต และหลวงพ่อใหญ่ ที่วิหารหลวงพ่อโต เพื่อโชคลาภและความเจริญ
ที่วัดนาคปรก มีพระพุทธรูปสองพี่น้องที่สร้างในยุครัตนโกสินทร์ ชื่อหลวงพ่อโตผู้พี่ (สร้างปี พ.ศ. 2465) และ หลวงพ่อเบิ้มผู้น้อง (สร้างปี พ.ศ. พ.ศ. 2472) ประดิษฐานอยู่ที่วิหารหลวงพ่อโตในบริเวณวัด พระพุทธรูปทั้งสององค์ สร้างโดยหลวงปู่ชู คงชูนาม เจ้าอาวาสในยุคสมัยนั้น
หลวงพ่อโตมีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยเฉพาะเรื่องการให้โชคให้ลาภ มีเอกสารเล่าเรื่องของหลวงพ่อโตในวิหารปิดไว้ว่า หลวงพ่อโตถูกคุณไสยเพราะความโกรธแค้นจากผู้ที่เสียประโยชน์จากการได้ลาภของผู้คนที่มากราบไหว้ ปัจจุบันได้รับการถอนออกแล้ว และสามารถอ่านเรื่องเต็มที่ได้วิหาร
วัดนาคปรกมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และยังกิจกรรมหลายอย่างให้เราได้ไปร่วมปฎิบัติ เราสามารถใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการไหว้พระสักการะให้ครบ และหากเรามีเวลามากนั้น ก็สามารถไปนั่งสมาธิในวิหารและอุโบสถ โดยจะมีความเงียบสงบกว่าในช่วงวันธรรมดา
การไหว้พระก็ดี การลอดโบสถ์ก็ดี หรือขอพรจากสิ่งศักดิสิทธิ์ก็ดี เป็นเรื่องที่เป็นมงคลขีวิตเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ทำให้เราได้หยุดคิดฟุ้งซ่าน ได้กลับมาพิจารณาตน และมุ่งตั้งจิตไปสู่เป้าหมาย เมื่อได้มาแล้วก็ขอให้เราทุกคนกลับไปดำเนินชีวินด้วยสติ มุ่งปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ให้อยู่ในศีล 5 ให้ได้มากที่สุด เพื่อความสุข ความเจริญของชีวิตและครอบครัวเรา
📍ที่ตั้ง
วัดนาคปรก แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 10160
Google Map https://goo.gl/maps/GejEzuzC7KXv52tu8
💳ค่าเข้า-ค่าบริการ
ฟรี
🚘การเดินทาง
เดินทางมาได้จาก ถนนเพชรเกษม ถนนรัชดาภิเษก เพื่อเข้าถนนเทอดไท
📆เปิดทำการ
ทุกวัน 8:00 น.- 16.00 น.